Skip to content

Instantly share code, notes, and snippets.

@dome
Last active September 24, 2025 05:37
Show Gist options
  • Save dome/8f62c2ed1a571e63059ffc498f9fc3bd to your computer and use it in GitHub Desktop.
Save dome/8f62c2ed1a571e63059ffc498f9fc3bd to your computer and use it in GitHub Desktop.

สรุป OP Stack และ Superchain

ภาพรวม OP Stack

OP Stack เป็นชุดซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ใช้สำหรับสร้าง Layer 2 blockchain บน Ethereum โดยใช้เทคโนโลยี Optimistic Rollups 4 OP Stack ถูกพัฒนาและดูแลโดย Optimism Collective เพื่อเป็นสาธารณูปโภคสำหรับระบบนิเวศ Ethereum และ Optimism 4

วิสัยทัศน์ของ Superchain

Superchain คือแนวคิดการปรับปรุงด้านการขยายตัวครั้งใหญ่ของ OP Stack หลังจาก Bedrock 1 โดยเป็นเครือข่ายของ chains ที่แบ่งปันระบบ bridging, การกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจ, การอัปเกรด, และชั้นการสื่อสาร ซึ่งทั้งหมดสร้างบน OP Stack 1

ปัญหาของ Blockchain ปัจจุบัน

เทคโนโลยี blockchain ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอสำหรับการสร้าง decentralized web เนื่องจากข้อจำกัดด้านการขยายตัว 1 แอปพลิเคชันเว็บส่วนใหญ่ไม่สามารถทำงานบน blockchain ได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ 1

ประโยชน์ของการแก้ปัญหาการขยายตัว

หากแก้ปัญหาการขยายตัวได้ จะทำให้:

  • นักพัฒนาไม่ต้องกังวลเรื่อง backend infrastructure เพราะ chain รับประกันการทำงานที่ถูกต้อง, uptime, และการขยายตัวแนวนอน 1
  • Composability จะเพิ่มขึ้นเกินกว่าความสามารถของ REST APIs แบบดั้งเดิม 1
  • นักพัฒนาไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย infrastructure ทั้งหมดสำหรับผู้ใช้ 1

สถาปัตยกรรม OP Stack

6 ชั้นหลักของ OP Stack

OP Stack ประกอบด้วย 6 ชั้นจากล่างขึ้นบน: 5

1. Data Availability Layer (DA Layer) - ชั้นความพร้อมใช้งานของข้อมูล

  • รับผิดชอบการจัดเก็บและให้บริการข้อมูลธุรกรรมที่จำเป็นสำหรับการตรวจสอบสถานะของ rollup
  • ทำให้มั่นใจว่าข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการสร้าง blocks สามารถเข้าถึงได้
  • สามารถใช้ Ethereum L1 หรือระบบ DA อื่นๆ เช่น Celestia หรือ EigenDA
  • เป็นชั้นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับความปลอดภัยและการกระจายอำนาจ

2. Sequencing Layer - ชั้นการจัดลำดับ

  • กำหนดวิธีการรวบรวมและเรียงลำดับธุรกรรมจากผู้ใช้
  • Sequencer รับผิดชอบการสร้างและเผยแพร่ blocks ใหม่
  • สามารถกำหนดค่าให้ใช้ sequencer เดี่ยวหรือหลายตัว
  • รองรับการกระจายอำนาจของ sequencer ในอนาคต
  • ควบคุมการเรียงลำดับธุรกรรมและป้องกัน MEV (Maximal Extractable Value)

3. Derivation Layer - ชั้นการดึงข้อมูล

  • ทำหน้าที่แปลงข้อมูลดิบจาก L1 ให้เป็นรูปแบบที่ execution layer สามารถประมวลผลได้
  • ใช้ Standard Ethereum Engine API และสถานะระบบปัจจุบัน
  • รับผิดชอบการ derive blocks จากข้อมูลที่เก็บไว้ใน DA layer
  • ทำให้ validators สามารถสร้าง L2 state ใหม่จากข้อมูล L1
  • เป็นสะพานเชื่อมระหว่าง raw data และ processed transactions

4. Execution Layer - ชั้นการประมวลผล

  • รับผิดชอบการประมวลผลธุรกรรมและการเปลี่ยนแปลงสถานะ
  • ใช้ EVM (Ethereum Virtual Machine) เพื่อความเข้ากันได้กับ Ethereum
  • จัดการ smart contracts และการเรียกใช้ functions
  • ประมวลผล state transitions ตาม inputs จาก rollup node
  • รักษาความเข้ากันได้กับ Ethereum tooling และ applications

5. Settlement Layer - ชั้นการชำระ

  • จัดการการยืนยันและการชำระธุรกรรมขั้นสุดท้าย
  • รับผิดชอบการส่ง state commitments ไปยัง L1
  • จัดการ dispute resolution และ fraud proofs
  • ทำให้มั่นใจว่าธุรกรรม L2 มีความปลอดภัยเท่ากับ L1
  • รองรับการถอนเงินจาก L2 กลับไปยัง L1

6. Governance Layer - ชั้นการกำกับดูแล

  • จัดการการอัปเกรดและการเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์ของระบบ
  • ควบคุมการตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาและการปรับปรุง protocol
  • รองรับการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจผ่าน token holders
  • จัดการ multisig และ timelock mechanisms สำหรับความปลอดภัย
  • เชื่อมโยงกับ Optimism Collective governance system

Core Components

1. op-geth (Execution Node)

  • เป็น Ethereum execution client ที่ถูกขยายเพื่อจัดการฟังก์ชันเฉพาะของ Layer 2 3
  • รับผิดชอบการเปลี่ยนแปลงสถานะของการประมวลผล 3
  • ทำงานร่วมกับ op-node ผ่าน Engine API 1

2. op-node (Rollup Node)

  • ประกอบด้วย sequencers และ validators 3
  • Sequencers รับผิดชอบการรวมธุรกรรมจาก Layer 2 และส่งไปยัง Layer 1 3
  • Validators/Verifiers ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมที่รวมกัน 3
  • เป็น stateless และได้รับมุมมองของโลกจาก op-geth 1

3. op-batcher

  • บริการที่ส่งข้อมูล L2 Sequencer ไปยัง L1 1
  • ลดต้นทุนการเขียนไปยัง L1 โดยส่งเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการสร้าง L2 blocks 1

4. op-proposer

  • บริการที่ส่ง output roots ไปยัง L1 1
  • เปิดใช้งานการส่งข้อความจาก L2 ไปยัง L1 แบบ trustless 1

5. op-deployer

  • เครื่องมือที่ทำให้การ deploy OP Stack chains ที่เป็นมาตรฐานง่ายขึ้น 1
  • ใช้สำหรับ deploy chains ใหม่ที่ใช้ Superchain wide contracts 1

Offchain Components

op-conductor

  • ทำหน้าที่เป็น leader-aware RPC proxy สำหรับ op-batcher 1

op-challenger

  • ตรวจสอบความถูกต้องของสถานะ L2 โดยการท้าทายการเปลี่ยนแปลงสถานะที่ไม่ถูกต้อง 1

การทำงานของ Horizontal Scalability

การขยายตัวแนวนอนของ blockchain ต้องใช้หลาย chains เนื่องจากความต้องการฮาร์ดแวร์ในการ sync chain เพิ่มขึ้นตามปริมาณการคำนวณที่ chain ทำ 1 ดังนั้นเพื่อให้เกิดการขยายตัวแนวนอน จำเป็นต้องรัน chains แบบขนาน 1

ปัญหาของ Multi-chain แบบดั้งเดิม

แนวทางแบบดั้งเดิมของสถาปัตยกรรม multi-chain มีปัญหาพื้นฐาน 2 ประการ: 1

  1. แต่ละ chain แนะนำโมเดลความปลอดภัยใหม่ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงระบบที่เพิ่มขึ้นเมื่อมีการเพิ่ม chains ใหม่
  2. การสร้าง chains ใหม่มีต้นทุนสูงเพราะต้องการ validator sets และ block producers ใหม่

ข้อดีของ OP Stack

ความเปิดกว้าง (Openness)

  • OP Stack จะถูกพัฒนาเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ blockchain ที่ modular และขยายได้ 5
  • การเริ่มต้น Layer 2 จะง่ายเหมือนการ deploy smart contract บน Ethereum 5

หลักการออกแบบ

  1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) - สามารถสร้างอะไรก็ได้และ deploy ไปยัง blockchain ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว 5
  2. ความเรียบง่าย (Concise) - ใช้โค้ดที่นำกลับมาใช้ได้และ development kits ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความซับซ้อนในการบำรุงรักษา 5
  3. ความสามารถในการขยาย (Expandable) - Optimism Collective จะเปิดซอร์สโค้ดหลักของ OP Stack อย่างเต็มที่ 5

สถานะปัจจุบันและอนาคต

Bedrock Release

Optimism Bedrock เป็น iteration ปัจจุบันของ OP Stack 4 Bedrock release ให้เครื่องมือสำหรับเปิดตัว Optimistic Rollup blockchain ที่มีคุณภาพระดับ production 4

อนาคตของ OP Stack

OP Stack เป็นแนวคิดที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา 4 เมื่อ Optimism เติบโต OP Stack ก็จะเติบโตตามไปด้วย 4 ในอนาคต จะง่ายขึ้นในการเสียบและกำหนดค่า modules ต่างๆ 4

เมื่อ Superchain เริ่มก่อตัว OP Stack สามารถพัฒนาไปพร้อมกัน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานการส่งข้อความที่ช่วยให้ chains ต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น 4


หมายเหตุ: ข้อมูลนี้สรุปจากเอกสารอย่างเป็นทางการของ Optimism และแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ณ วันที่จัดทำเอกสาร

Sign up for free to join this conversation on GitHub. Already have an account? Sign in to comment